เมนู

บทว่า นิรามคนฺธา ได้แก่ ไม่มีกลิ่นดาว ด้วยกลิ่นดาว คือ
ความโกรธ. บทว่า กรุเณ วิมุตฺตา ความว่า หลุดพ้นแล้ว ในเพราะ
กรุณาฌาน คือ ดำรงอยู่ในกรุณาและในธรรมอันเป็นส่วนเบื้องต้นของกรุณา.
บทว่า เย เต แก้เป็น เอเต. อีกอย่างหนึ่ง ปาฐะเป็นอย่างนี้ (เอเต)
ก็มีเหมือนกัน. บทว่า น สาธุรูปํ อาสิเท คือ ไม่พึงกระทบกระทั่งสภาวะ
ที่ดี. บทว่า ทิฏฺฐิฏฺฐานปฺปหายินํ คือ อันมีปกติละทิฏฐิ 62.
บทว่า สตฺตโม ได้แก่ เป็นบุคคลที่ 7 นับตั้งแต่พระอรหันต์ลงมา.
บทว่า อวีตราโค คือ ยังไม่ปราศจากราคะ.
ท่านปฏิเสธความเป็นอนาคามี ด้วยบทว่า อวีตราโค นั้น. บทว่า
ปญฺจินฺทฺริยา มุทู ความว่า อินทรีย์ในวิปัสสนา 5 อ่อน. จริงอยู่ อินทรีย์
เหล่านั้นของพระโสดาบันนั้น เปรียบเทียบกับพระสกทาคามีแล้ว นับว่า อ่อน.
บทว่า วิปสฺสนา ได้แก่ ญาณเป็นเครื่องกำหนดสังขาร. บทว่า
ปุพฺเพว อุปหญฺญติ ได้แก่ กระทบก่อนทีเดียว. บทว่า อกฺขโต ได้แก่
ไม่ถูกขุด คือ ไม่ถูกกระทบกระทั่งโดยการขุดคุณ. บทที่เหลือในที่ทั้งปวง
ง่ายทั้งนั้นแล.
จบธรรมิกวรรควรรณนาที่ 5
จบปฐมปัณณาสก์

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. นาคสูตร 2. มิคสาลาสูตร 3. อิณสูตร 4. มหาจุนทสูตร
5. ปฐมสันทิฏฐิกสูตร 6. ทุติยสันทิฏฐิกสูตร 7. เขมสุมนสูตร 8. อินทริย-
สังวรสูตร 9. อานันทสูตร 10. ขัตติยาธิปปายสูตร 11. อัปปมาทสูตร
12. ธรรมิกสูตร และอรรถกถา.

ทุติยปัณณาสก์


มหาวรรคที่ 1


1. โสณสูตร


ว่าด้วยพิณ 3 สาย


[326] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ
ใกล้กรุงราชคฤห์ ก็สมัยนั้น ท่านพระโสณะอยู่ที่ป่าชื่อ สีตวัน ใกล้กรุงราชคฤห์
ครั้งนั้น ท่านพระโสณะหลีกออกเร้นอยู่ในที่ลับ เกิดปริวิตกแห่งใจอย่างนี้ว่า
สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่
เราก็เป็นผู้หนึ่งในจำนวนสาวกเหล่านั้น ก็แต่ว่าจิตของเรายังไม่หลุดพ้นจาก
อาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็โภคทรัพย์ย่อมมีอยู่ในสกุลของเรา เราอาจเพื่อใช้สอย
โภคทรัพย์และทำบุญได้ ผิฉะนั้น เราพึงบอกคืนสิกขาสึกมาเป็นคฤหัสถ์ใช้สอย
โภคทรัพย์และพึงทำบุญเถิด.
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบปริวิตกแห่งใจของท่านพระโสณะ
ด้วยพระทัย แล้วทรงหายจากภูเขาคิชฌกูฏ ไปปรากฏตรงหน้าท่านพระโสณะ
ที่ป่าสีตวัน เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลังพึงเหยียดแขนที่คู้ หรือพึงคู้แขนที่
เหยียดฉะนั้น ทรงประทับนั่งบนอาสนะที่ได้ปูแล้ว แม้ท่านพระโสณะถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มี-
พระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระโสณะว่า ดูก่อนโสณะ เธอหลีกออกเร้นอยู่ใน
ที่ลับ เกิดปริวิตกแห่งใจอย่างนี้มิใช่หรือว่า สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่ เราก็เป็นผู้หนึ่งในจำนวนสาวก